“กลุ่มประกายไฟ” (Iskra Group)

วันพฤหัสบดีที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

แรงงานร่วมขบวนนักศึกษาชุมนุมหน้ารัฐสภา หนุนรัฐสวัสดิการ




1 พ.ค. 52 กรรมกรสากล ต้องสู้เพื่อ รัฐสวัสดิการ ยกเลิกเหมาค่าแรง สินค้าต้องราคาถูก



กลุ่มสหภาพแรงงานย่างรังสิตและใกล้เคียง ร่วมกับสหภาพแรงงานไทรอัมพ์อินเตอร์เนชั่นแนลแห่งประเทศไทยสหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนนท.) กลุ่มสังคมนิยมประชาธิปไตยธรรมศาสตร์ กลุ่มเวียงผาสัมมนาราม และกลุ่มประกายไฟ กว่า 200 คน ร่วมกันจัดกิจกรรมเนื่องใน “วันกรรมกรสากล” โดยเมื่อเวลา 10.00 น.มีการตั้งขบวนบนถนนสุโขทัย บริเวณหน้าสวนสัตว์เขาดิน จากนั้นได้เดินขบวนไปชุมนุมที่หน้ารัฐสภา


ขับกล่อมโดยบทเพลงจาก สนนท.


ในการชุมนุมได้เชิญชวนให้ประชาชนและคนทำงานทั่วไป ร่วมรณรงค์ให้รัฐบาลดำเนินการใน 3 ข้อ คือ 1.ให้ประเทศไทยเป็นรัฐสวัสดิการ 2.ให้รัฐบาลรัฐบาลยกเลิกการจ้างงานเหมาค่าแรง และควบคุมดูแลไม่ให้มีการละเมิดสิทธิมนุษยชนสิทธิแรงงานในทุกมิติ และ 3.รัฐบาลต้องควบคุมราคาสินค้าอุปโภค บริโภค เพื่อประชาชนอย่างเหมาะสม

ป้ายของ สนนท.และกลุ่มประกายไฟ


ละครสะท้อนชีวิตของพี่น้องแรงงาน


ส่วนกิจกรรม มีการปราศรัยเกี่ยวกับข้อเสนอต่างๆ ของผู้เข้าร่วม มีการแสดงดนตรี การแสดงละครสะท้อนชีวิตของคนงาน และในตอนท้ายได้มีการประกาศเจตนารมณ์ร่วมกันว่า กลุ่มสหภาพแรงงานย่างรังสิตและใกล้เคียง ร่วมกับองค์กรเพื่อนมิตรทุกองค์กร ขอสัญญาร่วมกันว่าจะร่วมกิจกรรมรณรงค์ร่วมกันอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างพลังในการเรียกร้องต่อรัฐร่วมกัน และจะมีการมาพบกันอีกครั้งที่ตรงนี้

ด้านกลุ่มประกายไฟมีแถลงการณ์เสนอรัฐสวัสดิการคือทางออกในวิกฤติ โดยแรงงานต้องเรียกร้องรัฐสวัสดิการ สังคมใหม่ที่สะท้อนความเสมอภาค และเป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง ทั้งนี้ รัฐสวัสดิการคือสังคมที่ให้หลักประกันในทุกด้าน ตั้งแต่เกิดจนตาย โดยจะนำสู่สังคมที่เป็นประชาธิปไตย เพิ่มอำนาจให้ประชาชนอย่างแท้จริง ไม่ใช่แค่ตัวอักษรตามรัฐธรรมนูญ โดยงบประมาณรัฐสวัสดิการต้องมาจากการเก็บภาษีที่ดิน ภาษีมรดก ภาษีเงินได้ในอัตราก้าวหน้า ดังนั้นรัฐสวัสดิการจึงไม่ใช่การร้องขอ หรือความใจดีของชนชั้นปกครอง แต่ต้องมาจากการต่อสู้ ซึ่งจำเป็นต้องมีพรรคการเมืองของตนเองเพื่อชูรัฐสวัสดิการอย่างแท้จริง






แถลงการณ์ฉบับเต็ม






กลุ่มประกายไฟเสนอ รัฐสวัสดิการคือทางออก ในวิกฤติเศรษฐกิจ!!!







วันที่ 1 พฤษภาคม ของทุกปีจะเป็นวันที่ชนชั้นปกครองทั่วโลกอกสั่นขวัญแขวนและหวาดกลัวที่สุด เมื่อ ประชาชนที่ทำงานหนักที่สุด ถูกขูดรีดเอาเปรียบที่สุดของทุกสังคมหาญกล้าที่จะรวมตัว หาญกล้าที่จะตั้งคำถามและทวงถามถึงความเป็นธรรม ขณะที่มวลชนรวมตัวและเรียกร้องในนามของผู้ใช้แรงงาน รัฐบาลที่หวาดกลัวประชาชนของตัวเอง จะโฆษณาชวนเชื่อ พร้อมคำหลอกลวง เรียกร้องหาความสมานฉันท์และสามัคคีในชาติ แต่พวกเขาล้วนหลอกลวง....เพราะพวกเขาไม่เคยหยุดขูดรีดเพื่อหาทางสมานฉันท์กับเราแต่อย่างใด เว้นแต่ในหนังสือนิยาย ที่มีในแบบเรียนที่พวกเขาหลอกลวงลูกหลานของพวกเราเท่านั้น
ในภาวะวิกฤติเศรษฐกิจนี้ เราจะพบว่าเหล่านายทุน-ผู้ประกอบการ จะมีมาตรการและข้ออ้างมากมายในการรักษาผลประโยชน์ของพวกเขา พวกเขาจะอ้างถึง สำนึกองค์กร ให้เราเสียสละลาออกเพื่อคนอื่น โดยพวกเขาไม่ต้องจ่ายค่าชดเชยอะไร ขณะที่พวกเขาเรียกร้องให้พวกเราเสียสละ แต่พวกเขายังคงนอนกลัดกลุ้มบนกองเงินกองทองที่พวกเขาขูดรีดพวกเรามาก่อนหน้านั้น และครุ่นคิดว่าทำอย่างไรจึงจะเขี่ยพวกเราทิ้งอย่างดูดีที่สุด
วิกฤติเศรษฐกิจเป็นเครื่องความพิสูจน์ความจริงใจของพวกเขา.....ว่าเมื่อต้องการลดค่าใช้จ่ายพวกเราจะเป็นพวกแรกที่พวกเขาจะสลัดทิ้งเสมอ พวกเรากลุ่มคนที่ทำงานหนักที่สุดในประเทศและถูกละเลยมาโดยตลอดต้องเรียกร้อง รัฐสวัสดิการ สังคมใหม่ซึ่งะท้อนความเสมอภาค และเป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง อันมีองค์ประกอบดังนี้

1.รัฐสวัสดิการคือสังคม ที่ให้หลักประกันในทุกด้าน ตั้งแต่เกิดจนตาย นับแต่การตั้งครรภ์ การเรียนหนังสือที่ฟรีและมีคุณภาพ สวัสดิการด้านที่อยู่อาศัยอย่างเหมาะสม งานที่มีความหมายต่อสังคม ค่าตอบแทนที่เหมาะสมต่อการดำรงชีพและมีเกียรติในสังคม
2.รัฐสวัสดิการจะนำสู่สังคม ที่เป็นประชาธิปไตย เป็นการเพิ่มอำนาจให้กับประชาชนอย่างแท้จริง ไม่ใช่แค่ตัวอักษรตาม รัฐธรรมนูญ
3.งบประมาณรัฐสวัสดิการต้องมาจากการเก็บ ภาษีที่ดิน ภาษีมรดก ภาษีเงินได้ในอัตราก้าวหน้า
4.ดังนั้นรัฐสวัสดิการจึงไม่ได้มาจากการร้องขอ...หรือความใจดีของชนชั้นปกครอง หากแต่ต้องมาจากการต่อสู้ ซึ่งเราจำเป็นต้องมีพรรคการเมืองของเรา เพื่อชูประเด็นรัฐสวัสดิการอย่างแท้จริง

ติดต่อเราที่ : prakaifire@windowslive.com, prakaifire@gmail.com,
0895363551, 0892583641, 0846601664, http://blogazine.prachatai.com/user/iskra/